สโมสรฟุตบอล โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) หรือที่แฟนบอลรู้จักกันในชื่อ BVB หนึ่งในสโมสรฟุตบอลชั้นนำของเยอรมนี และเป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอลที่ความสำเร็จอย่างมากใน บุนเดสลีกา เยอรมัน โดยคว้าแชมป์ลีกมาแล้วหลายสมัย รวมถึงแชมป์ยุโรปอย่าง ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในปี 1997 ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญ ที่ทำให้ดอร์ทมุนด์ก้าวขึ้นมาเป็น หนึ่งในทีมยักษ์ใหญ่ของยุโรป และวันนี้ทางเว็บ Football Wiki จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับสโมสรแห่งนี้ กันให้มากยิ่งขึ้น
ประวัติสโมสรฟุตบอล โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ Borussia Dortmund
โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ (Borussia Dortmund) เป็นหนึ่งในสโมสรฟุตบอล ที่มีชื่อเสียงที่สุดในเยอรมัน และทั่วโลก มีฉายาในไทยว่า เสือเหลือง ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 1909 ในเมืองดอร์ทมุนด์ รัฐนอร์ดไรน์-เวสท์ฟาเลิน ประเทศเยอรมนี โดยชื่อเต็มของสโมสรคือ “Ballspielverein Borussia 09 e.V. Dortmund” ซึ่งคำว่า “Borussia” มาจากชื่อโรงเบียร์ในท้องถิ่นขณะที่ปี “09” อ้างอิงถึงปีที่ก่อตั้งสโมสร ปัจจุบันมีผู้จัดการทีมชื่อ นูรี ชาฮิน

ยุคเริ่มต้นและความเติบโตของสโมสร ในช่วงยุคแรก ๆ สโมสรยังคงเป็นทีมเล็ก และแข่งขันในระดับท้องถิ่น ก่อนที่จะค่อย ๆ พัฒนาฝีเท้า และเข้าร่วมการแข่งขันระดับประเทศ หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ดอร์ทมุนด์ เริ่มสร้างชื่อเสียง ในฐานะหนึ่งในสโมสรชั้นนำ โดยในปี 1956 และ 1957 ทีมสามารถคว้าแชมป์ลีกเยอรมันได้สำเร็จ ทำให้ดอร์ทมุนด์กลายเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำใน ประเทศเยอรมนี
ยุคทองและความสำเร็จในยุโรป ในปี 1963 ดอร์ทมุนด์ กลายเป็นหนึ่งในทีมผู้ก่อตั้งลีกฟุตบอล บุนเดสลีกา เยอรมัน และได้สร้างความยิ่งใหญ่ในช่วงทศวรรษ 1990 โดยเฉพาะในปี 1997 เมื่อทีมคว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งนับว่าเป็นความสำเร็จระดับนานาชาติ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของสโมสร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเอาชนะทีมยักษ์ใหญ่จากอิตาลีอย่าง ยูเวนตุส ในนัดชิงชนะเลิศ ทำให้ชื่อเสียงของดอร์ทมุนด์กระจายไปทั่วโลก
ยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ หนึ่งในช่วงเวลาที่สำคัญของสโมสร คือ การมาถึงของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ในปี 2008 ภายใต้การคุมทีมของเขา ดอร์ทมุนด์ได้ประสบความสำเร็จครั้งสำคัญ คล็อปป์นำทีมคว้าแชมป์บุนเดสลีกา 2 สมัยติดต่อกันในปี 2011 และ 2012 และยังพาทีมเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกในปี 2013 แม้ว่าจะแพ้ให้กับบาเยิร์น มิวนิค แต่สไตล์การเล่นที่สนุก และเต็มไปด้วยพลัง ได้สร้างความประทับใจ ให้กับแฟนบอลทั่วโลก
สไตล์การเล่น และนักเตะชื่อดัง ดอร์ทมุนด์ขึ้นชื่อในเรื่องการใช้สไตล์การเล่นที่เน้นพลังงานสูง การบุกเร็ว และการป้องกันที่แข็งแกร่ง ซึ่งสไตล์นี้ได้รับการพัฒนาอย่างมาก ในยุคของคล็อปป์ สนามเหย้าของดอร์ทมุนด์คือ เว็สท์ฟาเลินชตาดีอ็อน ซึ่งมีความจุประมาณ 81,365 ที่นั่ง เป็นหนึ่งในสนามฟุตบอล ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป และเป็นที่รู้จักในฐานะสนามฟุตบอล ที่มีบรรยากาศการเชียร์ที่ยอดเยี่ยม
โดยแฟนบอลของดอร์ทมุนด์ เป็นที่รู้จักในชื่อ “The Yellow Wall” ที่สร้างบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ และกดดันต่อคู่แข่งอย่างมาก คู่แข่งสำคัญ คู่ปรับตลอดกาลของดอร์ทมุนด์คือ บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งทั้งสองทีมแข่งขันกันในนัดที่เรียกว่า “แดร์ คลาสสิเกอร์” (Der Klassiker) ที่ถือเป็นหนึ่งในแมตช์ที่มีความสำคัญ และร้อนแรงที่สุดของวงการฟุตบอลเยอรมัน
ถ้วยรางวัลและความสำเร็จของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

- บุนเดสลีกา (Bundesliga) แชมป์ 8 สมัย
- เดเอฟเบ-โพคาล (DFB-Pokal) แชมป์ 5 สมัย
- เดเอฟเบ-ซูเปอร์คัพ (DFL-Supercup) แชมป์ 6 สมัย
- ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก (UEFA Champions League) แชมป์ 1 สมัย
- อินเตอร์คอนติเนนตัลคัพ (Intercontinental Cup) แชมป์ 1 สมัย
- ยูฟ่า คัพ วินเนอร์ส คัพ (UEFA Cup Winners’ Cup) แชมป์ 1 สมัย (1965–66)
ครั้งหนึ่งดอร์ทมุนด์หนีตกชั้น แม้ เเจอร์เก้น คล็อปป์ คุมทีม
เรื่องราวนี้ต้องย้อนกลับไปในฤดูกาล 2014–2015 เป็นช่วงเวลาที่ไม่น่าจดจำสำหรับ ดอร์ทมุนด์ หนึ่งในทีมที่เคยยิ่งใหญ่ใน บุนเดสลีกา เยอรมัน ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ ซึ่งเป็นโค้ชที่เคยนำทีมคว้าแชมป์ลีก และมีชื่อเสียงในด้านการสร้างทีม ที่มีการเล่นเกมรุกเร้าใจ แต่ในฤดูกาลนั้น ดอร์ทมุนด์กลับเผชิญกับสถานการณ์ที่ย่ำแย่ที่สุด ในประวัติศาสตร์สโมสร จนถึงขั้นต้องหนีตกชั้นอย่างไม่น่าเชื่อ
ดอร์ทมุนด์เริ่มต้นฤดูกาล 2014–2015 ได้อย่างน่าผิดหวัง แม้ว่าทีมจะมีนักเตะฝีเท้าดีหลายคน เช่น มาร์โก รอยส์, มัตส์ ฮุมเมิ่ลส์ และ ปิแอร์-เอเมอริค โอบาเมย็อง แต่ฟอร์มของทีมกลับไม่สม่ำเสมอ ดอร์ทมุนด์ประสบปัญหาการบาดเจ็บของนักเตะตัวหลักบ่อยครั้ง ทำให้ไม่สามารถจัดทีมที่แข็งแกร่งได้อย่างต่อเนื่อง นอกจากปัญหาเรื่องผู้เล่นบาดเจ็บแล้ว ฟอร์มการเล่นที่คาดไม่ถึงก็เป็นปัจจัยสำคัญ แม้ว่าดอร์ทมุนด์จะครองบอลได้มากในหลายเกม แต่พวกเขากลับทำประตูไม่ได้ และมักพลาดท่าเสียประตูในช่วงเวลาสำคัญ
ครึ่งฤดูกาลแรกของฤดูกาล 2014–2015 ดอร์ทมุนด์ทำผลงานได้แย่เกินคาด จบช่วงพักคริสต์มาสในอันดับที่ 17 ของตาราง ซึ่งเป็นตำแหน่งรองสุดท้าย ถือว่าใกล้เคียงกับการตกชั้นอย่างมาก สำหรับทีมที่เคยคว้าแชมป์บุนเดสลีกา เมื่อไม่กี่ปีก่อน สำหรับคล็อปป์ ช่วงเวลานั้นถือเป็นบททดสอบครั้งใหญ่ที่สุดในอาชีพ แม้ผลงานในช่วงครึ่งแรกจะย่ำแย่ แต่ในครึ่งฤดูกาลหลัง ดอร์ทมุนด์ค่อย ๆ ฟื้นฟูฟอร์มการเล่นของตนเองขึ้นมาได้ คล็อปป์สามารถปรับแก้เกมและพาทีมกลับมาเก็บชัยชนะในเกมสำคัญได้เรื่อย ๆ และในที่สุด ทีมสามารถพาตัวเองออกจากโซนตกชั้นได้สำเร็จ ดอร์ทมุนด์จบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 7
หลังจบฤดูกาลที่ยากลำบากนี้ คล็อปป์ตัดสินใจประกาศอำลาตำแหน่งผู้จัดการทีมของ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แม้ว่าเขาจะเป็นโค้ชที่ประสบความสำเร็จมากมายกับทีม แต่การอำลาในครั้งนี้เป็นผลมาจากความรู้สึก ที่เขาคิดว่าได้มอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสโมสรแล้ว และถึงเวลาที่ทีมต้องการ การเปลี่ยนแปลง เพื่อก้าวไปข้างหน้า
ติดตามข้อมูลที่น่าสนใจของ บุนเดสลีกา เยอรมัน ได้ที่เว็บนี้
Borussia Dortmund ดอร์ทมุนด์ถือเป็นสโมสร ที่เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ความสำเร็จ ทั้งในระดับประเทศ และยุโรป ไม่เพียงแต่ความสำเร็จในสนามเท่านั้น แต่การพัฒนานักเตะเยาวชน และสไตล์การเล่นที่โดดเด่น ทำให้ ดอร์ทมุนด์ เป็นหนึ่งในสโมสรที่มีฐานแฟนบอลใหญ่ที่สุดในโลก สามารถติดเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับ บุนเดสลีกา ลีกฟุตบอลสูงสุดของประเทศเยอรมัน ได้ที่เว็บ Football Wiki