หากพูดถึงกองกลางที่ดีที่สุดในโลกฟุตบอล อาจจะมีชื่อนักเตะมากมายที่คุณนึกถึง แต่ในเวลานี้ไม่มีใครที่ไม่รู้จักเขาคนนี้ คนที่เข้ามาแล้วทำให้ทีม “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ดุดัน มีโอกาสลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง ชายผู้นั้นคือ มัตติน เออเดอโกร์ (Martin Odegaard) หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันในชื่อ มาร์ติน โอเดการ์ด นักฟุตบอลทีมชาตินอร์เวย์ จากดาวรุ่งพเนจร ย้ายสโมสรเป็นว่าเล่น กลายมาเป็นจอมทัพอาร์เซน่อลในปัจจุบัน เขาเป็นห้องเครื่องคนสำคัญของทีม โอเดการ์ด ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่สุดที่สุดในเวลานี้
ประวัติ มัตติน เออเดอโกร์ กองกลางอัจฉริยะ จอมทัพอาร์เซน่อล
มัตติน เออเดอโกร์ (Martin Odegaard) หรือที่คนไทยคุ้นเคยกันในชื่อ มาร์ติน โอเดการ์ด เกิดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ค.ศ.1998 หรือ พ.ศ.2541 เกิดที่ ดรัมเมิน ประเทศ นอร์เวย์ ส่วนสูง 5 ฟุต 10 นิ้ว (1.78 เมตร) ตำแหน่งที่เล่น กองกลางตัวรุก, กองกลางตัวกลาง สโมสรที่เล่นปัจจุบัน (ปี 2024) อาร์เซน่อล สวมเสื้อหมายเลข 8 เป็นจอมทัพอาร์น่อลในเวลานี้
โอเดการ์ด เขาลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับสโมสรสตรอมก็อดเซ็ทครั้งแรกในวันที่ 13 เมษายน 2014 และกลายเป็นผู้เล่นที่อายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นในทิปเปลีเก้น (ลีกสูงสุดของประเทศนอร์เวย์) และกลายเป็นผู้ทำประตูที่อายุน้อยที่สุดในวันที่ 16 พฤษภาคม ในนัดที่พบกับ ซาร์ปสปอร์ หลังจากที่ได้ลงเล่นเป็นตัวจริงกับสโมสรเป็นฤดูกาลแรก ถือได้ว่าน่าทึ่งมาก ๆ กับเด็กวัย 16 ปี จากนั้นเขาก็ได้เซ็นสัญญากับ “ราชันชุดขาว” เรอัล มาดริด ในเดือนมกราคม ปี 2015 เขาก็กลายเป็นนผู้เล่นที่มีอายุน้อยที่สุดที่เปิดตัวกับเรอัลมาดริด
หลังจากที่เขาเซ็นสัญญากับทีม เรอัล มาดริด 2 ปีต่อมา ต้นสังกัดของเขาได้ปล่อยให้ทีม ฮีเรนวีน (ทีมในลีกสูงสุดของฮอลแลนด์) ยืมตัวไปในปี 2017-18 จากนั้นก็ปล่อยให้ทีม วิเทสส์ (ทีมในลีกสูงสุดของฮอลแลนด์) ยืมตัวไปในปี 2018-19 จากนั้นก็ปล่อยให้ทีม เรอัล โซเซียดัด ยืมตัวไปในปี 2019-20 จากนั้นก็ปล่อยให้ทีม อาร์เซน่อล ยืมตัวไปในปี 2021 หลังจากที่เขาไปอยู่กับ อาร์เซน่อล เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม อาร์เซน่อล จึงขอซื้อขาดด้วยราคา 34 ล้านปอนด์ เซ็นสัญญา 5 ปี จนถึงเดือนมิถุนายน ปี 2026
ส่องสถิติของ มัตติน เออเดอโกร์ ช่วงอยู่ทีมอาร์เซน่อล
พรีเมียร์ลีก
- 2023-24 ลงเล่น 33 นัด ทำได้ 8 ประตู 8 แอสซิสต์ ได้รับ 2 ใบเหลือง
- 2022-23 ลงเล่น 37 นัด ทำได้ 15 ประตู 7 แอสซิสต์ ได้รับ 4 ใบเหลือง
- 2021-22 ลงเล่น 36 นัด ทำได้ 7 ประตู 4 แอสซิสต์ ได้รับ 4 ใบเหลือง
- 2020-21 ลงเล่น 14 นัด ทำได้ 1 ประตู 2 แอสซิสต์
ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก (UCL)
- 2023-24 ลงเล่น 9 นัด ทำได้ 2 ประตู 1 แอสซิสต์
ลีกคัพ
- 2023-24 ลงเล่น 2 นัด ทำได้ 1 ประตู
- 2021-22 ลงเล่น 3 นัด ทำได้ 1 แอสซิสต์
เอ็มแอลเอส ออล-สตาร์
- 2023 ลงเล่น 1 นัด ทำได้ 1 แอสซิสต์
ยูฟ่ายูโรปาลีก
- 2020-21 ลงเล่น 6 นัด ทำได้ 1 ประตู
5 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ มัตติน เออเดอโกร์
เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักฟุตบอล
มัตติน เออเดอโกร์ เกิดที่มืองดรัมเมิน เมืองท่าของประเทศนอร์เวย์ เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม ปี 1998 โดยเขาได้ถูกจับตามองจากหลายทีมในยุโรปตั้งแต่เขาเป็นเยาวชน และมีชื่อติดทีมชาติชุดใหญ่ด้วยอายุเพียง 15 ปีเท่านั้น ปัจจุบันเป็นกัปตันทีมอาร์เซน่อล หลังจากที่เขาเข้ามาอยู่ในทีม พาทีมมีโอกาสลุ้นแชมป์หลายรายการ เรียกได้ว่าเป็นกุญแจสำหรับของทีมอาร์เซน่อลเลยก็ว่าได้
ย้ายไปอยู่ เรอัล มาดริด พร้อมกับพ่อของเขา
ฮานส์ เอริค โอเดการ์ด พ่อของ มาร์ติน โอเดการ์ด อาจไม่ใช่คนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่ทั้งสองคนได้ย้ายไปอยู่กับทีม เรอัล มาดริด ในเวลาเดียวกัน ในช่วงเดือนมกราคมปี 2015 ซึ่งพ่อของเรานั้นได้ย้ายไปเป็นโค้ชให้กับทีมเยาวชนของ เรอัล มาดริด ขณะที่ตัวเขาเองนั้นย้ายไปในฐานะนักเตะในทีมเยาวชน
เป็นผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ เรอัล มาดริด
โอเดการ์ด ได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ของ “ราชันชุดขาว” เมื่อเดือนเมษายนปี 2015 โดยถูกส่งลงมาแทน คริสเตียโน โรนัลโด้ ในเกมที่ทีมชนะ เกตาเฟ่ 7-3 และมันทำให้เขากลับเป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ลงสนามในทีมชุดใหญ่ ด้วยอายุเพียง 16 ปี 157 วัน ซึ่งยังเป็นสถิติมาจนถึงปัจจุบันนี้
มี ลิโอเนล เมสซี่ เป็นไอดอล
แม้ว่าเขาจะเป็นนักเตะของ เรอัล มาดริด แต่ไอดอลหนึ่งเดียวของเขาก็คือ ลิโอเนล เมสซี่ นักเตะชาวอาร์เจนตินาของทีมบาร์เซโลนาในเวลานั้น เฮรัลด์ โยฮันเนสเซน โค้ชในวัยเด็กของเขาเผยว่า โอเดการ์ด เป็นแฟนตัวยงของแชมป์ฟุตบอลโลกชาวอาร์เจนตินา โยฮันเนสเซน กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร These Football Times ในปี 2019 ว่า “เขา (โอเดการ์ด) รักเมสซี่ ซึ่งนั่นก็อาจจะฟังดูแปลกนิดหน่อยที่เขารัก เมสซี่ แต่ไปอยู่กับ เรอัล มาดริด”
โอเดการ์ด พูดได้หลายภาษา
มาร์ติน โอเดการ์ด เขาพูดได้ 3 ภาษา อย่างคล่องแคล่ว ได้แก่ ภาษานอร์เวย์, ภาษาสเปน และ ภาษาอังกฤษ เขามักใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ในการค้าแข้งในนอร์เวย์, สเปน และอังกฤษ ทำให้ 3 ภาษานี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับเขา อารอน แรมส์เดลล์ เคยเผยว่า อาร์เตต้า มักจะคุยเรื่องแท็คติกของทีมกับ โอเดการ์ด เป็นภาษาสเปน ขณะเดียวกันก็เน้นย้ำว่ามิดฟิลด์รายนี้ใช้ภาษาอังกฤษได้คล่องแคล่วเหมือนเป็นเจ้าของภาษาเลยทีเดียว
มาร์ติน โอเดการ์ด คีย์แมนคนสำคัญที่ ทัพปืนใหญ่ ขาดไม่ได้
ในปัจจุบัน (ปี 2024) โอเดการ์ด เป็นผู้เล่นคนสำคัญของทัพ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ที่ช่วยทำให้ทีมอาร์เซน่อลนั้นกลายเป็นทีมที่ลุ้นแชมป์ได้อย่างเต็มตัว ซึ่งพวกเขาไม่เคยได้แชมป์ลีกอีกเลย หลังจากคว้าแชมป์ไร้พ่ายอย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาล 2003-04 ส่วนโอเดการ์ด จะพาทัพปืนใหญ่ไปได้ไกลแค่ไหน จะพาทีมคว้าแชมป์ได้กี่รายการ แฟนบอลปืนใหญ่ก็คงต้องติดตามกันต่อไป