ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) หรือ ทีมชาติฮอลแลนด์ มีฉายาว่า“อัศวินสีส้ม” ทีมฟุตบอลที่เป็นตำนานด้วยสไตล์การเล่นที่สวยงามและแฟนบอลที่เหนียวแน่น เดินทางไปกับ Football Wiki เพื่อสำรวจประวัติศาสตร์อันยาวนานของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ตั้งแต่ยุคทองของฟุตบอลฮอลแลนด์ จนถึงปัจจุบัน พบกับเรื่องราวเบื้องหลังฉายาอันโด่งดัง และทำไมสีส้มจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของทีมชาติแห่งนี้ พร้อมทั้งวิเคราะห์โอกาสในการคว้าแชมป์ในอนาคตของเหล่าอัศวินสีส้ม
ประวัติศาสตร์ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (อัศวินสีส้ม) ที่ควรรู้
ฟุตบอลทีมชาติเนเธอร์แลนด์ มีฉายาว่า “อัศวินสีส้ม” หรือคนไทยมักเรียกกันว่า ทีมชาติฮอลแลนด์ เป็นหนึ่งในทีมฟุตบอลชั้นนำของโลก โดยทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (Netherlands) มีผลงานสูงสุดในศึกฟุตบอลโลกคือ ได้รองแชมป์ 3 สมัยในศึกฟุตบอลโลกปี 1974, 1978 และ 2010 และได้แชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 1 สมัยในปี 1988 ได้รองแชมป์ในศึกยูฟ่าเนชันส์ลีก 1 สมัยในปี 2019 และคว้าเหรียญทองแดง 3 สมัยในกีฬาโอลิมปิกในปี 1908, 1912 และ 1920
ยุคทองแห่งฟุตบอลฮอลแลนด์
ยุค 70 เป็นยุคทองของฟุตบอลเนเธอร์แลนด์อย่างแท้จริง นำโดยนักเตะระดับตำนานอย่าง โยฮัน ครัฟฟ์ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ได้สร้างปรากฏการณ์ “ฟุตบอลแบบฮอลแลนด์” ที่เน้นการครองบอลและการผ่านบอลที่สวยงาม ซึ่งเป็นรากฐานของฟุตบอลสมัยใหม่ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในยุคนั้นสามารถเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกถึง 2 ครั้งติดต่อกันในปี 1974 และ 1978 แม้จะพลาดแชมป์ไปอย่างน่าเสียดาย แต่ก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลทั่วโลก
ยุคต่อมาและความสำเร็จในศึกยูโร 1988
หลังจากยุคทองผ่านไป ฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ยังคงผลิตนักเตะฝีเท้าดีออกมาอย่างต่อเนื่อง และในปี 1988 ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ก็สามารถคว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) มาครองได้สำเร็จ นำโดยนักเตะอย่าง มาร์โก ฟาน บาสเทน, รูด กุลลิต และ ฟรังค์ ไรกการ์ด ซึ่งเป็นการตอกย้ำความยิ่งใหญ่ของฟุตบอลเนเธอร์แลนด์อีกครั้ง
ยุคสมัยใหม่และความคาดหวัง
ในยุคสมัยใหม่ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ยังคงเป็นหนึ่งในทีมเต็งของทัวร์นาเมนต์สำคัญเสมอมา แม้จะยังไม่สามารถคว้าแชมป์โลกได้อีกเลย แต่ก็มีนักเตะฝีเท้าดีหลายคนที่สร้างชื่อเสียงให้กับทีมชาติ เช่น เดนนิส เบิร์กแคมป์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, อาร์เยิน รอบเบ็น, รุด ฟาน นิสเตอรอย และล่าสุดคือ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์
สไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์
ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ หรือที่เรารู้จักกันดีในฉายา “อัศวินสีส้ม” นั้นโดดเด่นไม่เพียงแต่สีเสื้อที่เป็นเอกลักษณ์เท่านั้น แต่ยังมีสไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งได้รับการยอมรับและชื่นชมจากทั่วโลกมาอย่างยาวนาน
หนึ่งในสิ่งที่ทำให้ฟุตบอลเนเธอร์แลนด์แตกต่างจากทีมชาติอื่น ๆ คือปรัชญา “Total Football” หรือ “ฟุตบอลแบบรวม” ที่ริเริ่มโดยเรอุส เรนเซนบริงค์ ซึ่งเป็นโค้ชชาวเนเธอร์แลนด์ในยุค 60 ปรัชญานี้เน้นให้ผู้เล่นทุกคนในสนามสามารถเล่นได้ทุกตำแหน่ง ทำให้เกมรุกของเนเธอร์แลนด์มีความหลากหลายและยากต่อการคาดเดา
จุดเด่นของสไตล์การเล่น
- เกมรุกที่สวยงาม: เนเธอร์แลนด์มักจะเน้นเกมรุกที่สวยงาม การผ่านบอลที่แม่นยำ และการสร้างสรรค์โอกาสทำประตูที่น่าตื่นตาตื่นใจ
- การครองบอล: นักเตะเนเธอร์แลนด์มีความสามารถในการครองบอลได้อย่างเหนียวแน่น ทำให้คู่แข่งยากที่จะแย่งบอลไปได้
- การเคลื่อนที่ของนักเตะ: นักเตะทุกคนในสนามจะเคลื่อนที่อย่างอิสระและสลับตำแหน่งกัน ทำให้เกมรุกมีความหลากหลายและยากต่อการรับมือ
- เทคนิคการควบคุมบอล: นักเตะชาวเนเธอร์แลนด์ส่วนใหญ่มีเทคนิคการควบคุมบอลที่ยอดเยี่ยม ทำให้สามารถเล่นบอลได้อย่างคล่องตัวและสวยงาม
สไตล์การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทีมชาติเนเธอร์แลนด์คือหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้ทีมได้รับความนิยมจากทั่วโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับทีมฟุตบอลหลายทีมทั่วโลกในการพัฒนารูปแบบการเล่นของตัวเอง
ทำไมสีส้มถึงเป็นสีประจำชาติของ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ?
หลายคนคงสงสัยว่าทำไมเวลาพูดถึงทีมชาติเนเธอร์แลนด์แล้วต้องนึกถึงสีส้มกันใช่ไหม? สีส้มไม่ได้เป็นแค่สีชุดแข่งที่สวยงาม แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์และความเป็นเอกลักษณ์ของประเทศนี้อีกด้วย
ที่มาของสีส้ม
สีส้มที่เราเห็นในชุดแข่งของทีมชาติเนเธอร์แลนด์นั้น มาจาก ราชวงศ์ออเรนจ์-นาซเซา (House of Orange-Nassau) หรือเรียกสั้น ๆ ว่า ราชวงศ์ออเรนจ์ ซึ่งเป็นราชวงศ์ที่ปกครองประเทศเนเธอร์แลนด์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 เลยทีเดียว
- สีส้มเป็นสีของราชวงศ์: สีส้มเป็นสีที่สื่อถึงราชวงศ์ออเรนจ์ และเป็นสีที่ใช้ในธงประจำตระกูลของราชวงศ์นี้มาอย่างยาวนาน
- จากราชวงศ์สู่ประชาชน: เมื่อเวลาผ่านไป สีส้มก็กลายเป็นสีที่คนเนเธอร์แลนด์ใช้เพื่อแสดงออกถึงความเป็นชาติและความภาคภูมิใจในราชวงศ์
- สีส้มในกีฬา: สีส้มจึงถูกนำมาใช้เป็นสีประจำทีมชาติเนเธอร์แลนด์ในหลายชนิดกีฬา ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอล ฮอกกี้ หรือแม้แต่รักบี้
ทำไมต้องสีส้ม?
- สัญลักษณ์แห่งความเป็นหนึ่งเดียว: สีส้มช่วยสร้างความเป็นเอกลักษณ์และความเป็นหนึ่งเดียวให้กับชาวเนเธอร์แลนด์ทุกคน
- ความภาคภูมิใจในชาติ: เมื่อเห็นสีส้ม ก็จะนึกถึงความเป็นชาติและประวัติศาสตร์อันยาวนานของเนเธอร์แลนด์
- แรงบันดาลใจในการเชียร์: สีส้มยังเป็นสีที่สร้างความตื่นเต้นและเป็นแรงบันดาลใจให้กับแฟนบอลชาวดัตช์ในการเชียร์ทีมชาติอีกด้วย
อัศวินสีส้ม
จากสีส้มที่เป็นสัญลักษณ์ของทีมชาติ ก็ทำให้เกิดฉายาอันโด่งดังของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ นั่นก็คือ “อัศวินสีส้ม” ซึ่งสื่อถึงความกล้าหาญและความแข็งแกร่งของนักกีฬาชาวดัตช์ สีส้มจึงไม่ใช่แค่สีธรรมดา แต่เป็นสีที่มีความหมายและความสำคัญต่อชาวเนเธอร์แลนด์เป็นอย่างมาก เป็นสีที่เชื่อมโยงระหว่างประวัติศาสตร์ ราชวงศ์ และความเป็นชาติเข้าด้วยกัน และเป็นสีที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับชาวดัตช์ทุกคน
เกียรติประวัติ ผลงานที่โดดเด่นของ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์ (Netherlands)
- ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ในปี 1988 (ได้แชมป์)
- ฟุตบอลโลก 1974 (รองแชมป์)
- ฟุตบอลโลก 1978 (รองแชมป์)
- ฟุตบอลโลก 1998 (อันดับที่ 4)
- ฟุตบอลโลก 2010 (รองแชมป์)
- ฟุตบอลโลก 2014 (อันดับที่ 3)
- ยูฟ่าเนชันส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 (รองแชมป์)
ข้อมูลเกี่ยวกับโลกฟุตบอล ติดตามได้ที่ Footballwiki ครบจบที่เดียว
ท่านใดที่แฟนบอลตัวยง หากไม่ต้องการพลาดข้อมูลเกี่ยวกับโลกฟุตบอล ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลนักเตะ ข้อมูลสโมสร ข้อมูลผู้จัดการทีม หรือข้อมูลเกี่ยวกับทีมชาติต่าง ๆ เราขอแนะนำ Footballwiki เว็บบอลออนไลน์ที่กำลังมาแรงและดีที่สุด เว็บเดียวครบจบทุกเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอล ข้อมูลจริง อัปเดตก่อนใคร พร้อมให้บริการทุกท่านตลอด 24 ชั่วโมง หากคุณคือแฟนบอลตัวยง ไม่ควรพลาดเด็ดขาด!