อุรกวัย เป็นหนึ่งในประเทศที่มีประวัติศาสตร์ฟุตบอลมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะการแข่งขันฟุตบอลในทวีปอเมริกาใต้ และฟุตบอลโลกที่ ทีมชาติอุรุกวัย ได้โชว์ฟอร์มการเล่นที่ดุดัน แข็งแกร่ง และเล่นเป็นทีมเวิร์ค ทำให้ ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย กลายเป็นที่ถูกจับตามองเสมอมา และสำหรับวันนี้ทางเว็บไซต์ Football Wiki จะขอพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ จอมโหด ทีมฟุตบอลแห่งทวีป อเมริกาใต้ กันให้มากยิ่งขึ้น
ทีมชาติอุรุกวัย Uruguay ประวัติและข้อมูลจอมโหดแห่งอเมริกาใต้
ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย หรือที่มีฉายาว่า “La Celeste” ซึ่งแปลว่า ท้องฟ้าสีฟ้า หรือในไทยมักจะรู้จักกันในชื่อ จอมโหด เป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในประวัติศาสตร์ฟุตบอลอเมริกาใต้และระดับโลก ปัจจุบันมีกุนซือชื่อ ดิเอโก อาลอนโซ อุรุกวัยเป็นทีมชาติที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ต้นศตวรรษที่ 20 ซึ่งถือเป็นประเทศแรกที่ชนะเลิศการแข่งขันฟุตบอลโลก โดยชนะเลิศในปี ค.ศ. 1930 และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1950
ประวัติการก่อตั้ง ทีมชาติอุรุกวัย
ทีมชาติอุรุกวัย เริ่มต้นการลงสนามในระดับนานาชาติ ในปี ค.ศ. 1902 ในการแข่งขันกับ ทีมชาติอาร์เจนตินา ซึ่งถือเป็นการจัดการแข่งขันระหว่างประเทศครั้งแรกในอเมริกาใต้ ต่อมาในปี ค.ศ. 1916 อุรุกวัยได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์อเมริกาใต้ (South American Championship) ซึ่งต่อมากลายเป็น โคปาอเมริกา โดยอุรุกวัยได้แชมป์รายการนี้หลายครั้ง และยังคงเป็นทีมที่ชนะเลิศมากที่สุดในโคปาอเมริกาถึง 15 สมัย
เป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก และการคว้าแชมป์โลก
Uruguay อุรุกวัยเป็นประเทศเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งแรก ที่เมืองมอนเตวิเดโอ ในปี ค.ศ. 1930 ซึ่งเป็นปีครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งประเทศ พวกเขาเอาชนะอาร์เจนตินา 4-2 ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกได้สำเร็จ การคว้าแชมป์ครั้งนี้ช่วยสร้างชื่อเสียง และวางรากฐานให้กับวงการ ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย ในระดับสากล
และในฟุตบอลโลกปี ค.ศ. 1950 ที่ประเทศบราซิล อุรุกวัยสร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง โดยคว้าแชมป์โลกสมัยที่สอง พวกเขาเอาชนะบราซิล 2-1 ในการแข่งขันรอบสุดท้ายที่สนามมารากานา กรุงรีโอเดจาเนโร ซึ่งถือเป็นแมตช์ ที่มีชื่อเสียง ในประวัติศาสตร์ฟุตบอล และรู้จักกันในชื่อ “มหัศจรรย์ที่มารากาน่า” (Maracanazo) ชัยชนะนี้สร้างความเสียใจให้แก่ชาวบราซิล และยกย่องอุรุกวัยในฐานะทีมชาติ ที่มีจิตวิญญาณนักสู้อันแข็งแกร่ง
ความสำเร็จในโคปาอเมริกา
หลังจากยุคแห่งความสำเร็จในช่วงแรก อุรุกวัยยังคงเป็นหนึ่งในทีมชั้นนำใน อเมริกาใต้ โดยเฉพาะในโคปาอเมริกา ซึ่งพวกเขาคว้าแชมป์มากถึง 15 สมัย ในช่วงทศวรรษที่ 1980 และ 1990 อุรุกวัยมีความสำเร็จในระดับทวีป แต่ทีมยังคงประสบปัญหา ในการคว้าแชมป์โลกเพิ่ม อย่างไรก็ตาม ในฟุตบอลโลกปี 2010 ทีมชาติอุรุกวัยทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เข้าถึงรอบรองชนะเลิศและคว้าอันดับที่ 4 นำโดยนักเตะดาวรุ่งอย่าง ดีเอโก ฟอร์ลัน ที่คว้ารางวัลลูกบอลทองคำจากการเป็นผู้เล่นยอดเยี่ยม ในทัวร์นาเมนต์นั้น
ทีมชาติอุรุกวัยถือเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ทีมหนึ่งในประวัติศาสตร์ ฟุตบอลอเมริกาใต้ และระดับโลก โดยเฉพาะในแง่ของการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก และโคปาอเมริกา รวมถึงการเป็นแชมป์ฟุตบอลโอลิมปิกถึงสองครั้งในช่วงทศวรรษที่ 1920 ความสำเร็จและจิตวิญญาณของพวกเขา ยังคงเป็นแรงบันดาลใจให้แฟนบอล และนักฟุตบอลรุ่นหลัง
ถ้วยรางวัลและความสำเร็จของทีมชาติอุรุกวัย ในระดับนานาชาติ
ทีมชาติอุรุกวัยเป็นหนึ่งในทีมที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด ในวงการฟุตบอลระดับโลก และทวีปอเมริกาใต้ โดยมีความสำเร็จในการคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์ระดับนานาชาติ และทวีปหลากหลายรายการ ดังนี้
- แชมป์ฟุตบอลโลก (FIFA World Cup) 2 สมัย ในปี 1930, 1950
- แชมป์โคปาอเมริกา (Copa América) 15 สมัย
- คว้าเหรียญทองโอลิมปิกเกมส์ (Olympic Games) 2 สมัย ในปี 1924, 1928
- รองแชมป์ ฟีฟ่าคอนเฟเดอเรชันส์คัพ (FIFA Confederations Cup) ในปี 1983
- อันดับ 3 ชิงแชมป์ปานาอเมริกัน (Panamerican Championship) ในปี 1952
สำหรับแชมป์ที่ยื่งใหญ่ที่ของ ฟุตบอลทีมชาติอุรุกวัย นั้นคือการคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งแรกในปี 1930 ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศของตนเอง โดยเอาชนะอาร์เจนตินา 4-2 ในรอบชิงชนะเลิศ และเป็นเจ้าภาพที่คว้าแชมป์ในการจัดแข่งขันครั้งแรกของฟีฟ่า และต่อมาในปี 1950 อุรุกวัยคว้าแชมป์อีกครั้งด้วยการสร้าง “มหัศจรรย์ที่มารากาน่า” โดยเอาชนะบราซิล 2-1 ในนัดสุดท้ายที่สนามมารากานา กรุงรีโอเดจาเนโร เป็นชัยชนะที่มีชื่อเสียง และตราตรึงใจแฟนบอลทั่วโลก
ติดตามข้อมูลฟุตบอลทีมชาติและอื่น ๆ ได้ที่เว็บ Football Wiki
สำหรับทีมชาติอุรุกวัยนั้น ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการแข่งขันระดับนานาชาติ และทวีปอเมริกาใต้ ทั้งการเป็นแชมป์โลก 2 สมัย และคว้าแชมป์โคปาอเมริกาถึง 15 สมัย พร้อมทั้งประวัติความเป็นมาที่ยิ่งใหญ่ในโอลิมปิกเกมส์ ความสำเร็จเหล่านี้สร้างความภาคภูมิใจให้แก่ชาวอุรุกวัย และยืนยันสถานะของทีมชาติอุรุกวัยในฐานะ “จอมโหด” แห่งวงการฟุตบอล สามารถติดตามข้อมูลต่าง ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับวงการฟุตบอล ได้ที่หน้าเว็บไซต์ Football Wiki แหล่งรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับ วงการฟุตบอลทั่วโลก